เข้าสู่ระบบ

Login to your account

Username *
Password *
Remember Me

ทุ่มหมดหน้าตัก หนุนรถยนต์ไฟฟ้า ก.อุตฯ เล็งให้สิทธิ์จัดหนัก-จูงใจเอกชนลงทุนในปีนี้

  • STEEP Category :
    Politic
  • Event Date :
    03 กุมภาพันธ์ 2560
  • Created :
    02 กุมภาพันธ์ 2560
  • Status :
    Current
  • Submitted by :
    Phunphen Waicharern
Description :

กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งสรุปแผนหนุนลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จูงใจเอกชนยื่นขอบีโอไอภายในปีนี้ หวังผลิตได้ภายใน 3 ปี ทุ่มสุดตัวนอกจากเว้นภาษี 13 ปี อาจให้เพิ่มอีก รวมถึงถกสรรพสามิตหั่นภาษีรถยนต์ไฟฟ้า จาก 10% ให้ต่ำลงไปอีก

นายอุตตม สาวนายน  รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงกำลังหามาตารการจูงใจให้เอกชนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ภายในปีนี้ซึ่งมึความเป็นไปได้ที่ผลิตเชิงพาณิชย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า รองรับเทคโนโลยีอีวีโลกที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในไม่เกิน 10 – 15 ปีนับจากนี้

“อย่างไรก็ตาม แพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนอย่างเดียวคงยังไม่ตอบโจทย์ ดังนั้น ทั้งหมดจะตอบโจทย์ให้เกิดการลงทุนได้จริงต้องประกอบไปด้วย 1. สิทธิประโยชน์ 2. สร้างความต้องการ เช่น ลดภาษีนำเข้า 3. กำหนดเทคโนโลยี เช่น่ ต้องก่อให้เกิดการผลิตแบตเตอรี่ และ 4. แนวทางเจรจาผู้ที่จะลงทุน โดยตั้งคณะทำงานขับเคลื่อน เพื่อสรุปแนวทางพัฒนาให้เสร็จภายน 2 สัปดาห์” นายอุตตมกล่าว

ด้านนายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า แนวทางการส่งเสริมสิทธิประโยชน์การลงทุนจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.ใหม่ของบีโอไอ เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 13 ปี แต่อาจมีเงื่อนไขพิเศษที่จะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี เชื่อมโยงซัพพลายเชนหรือการร่วมทุนกับผู้ผลิตในไทยในการพัฒนาแบตเตอรี่ซึ่งก็กำลังพิจารณารายละเอียดต่างๆ อยู่รวมถึงกำลังหารือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศว่าจะหาแนวทางอย่างไรในการปรับตัวรองรับ

“รถอีวีถือเป็นการส่งเสริมในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่อาจเห็นสิทธิประโยชน์แบบบีโอไอพลัส นอกเหนือจากบีโออาจมีมาตรการของกระทรวงการคลังเข้ามาเสริมซึ่งกำลังพจารณาอยยุ๋ ส่วนชิ้นส่วนเรากำลังหารือว่าจะปรับให้ผู้ผิลตชิ้นส่วนในไทยรองรับอย่างไร ส่วนหนึ่งอาจพัฒนาไปผลิตชิ้นส่วนรองรับได้แต่อีกส่วนอาจต้องปรับไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ” นายวีระศักดิ์กล่าว

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรรมในฐานะรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลักกการของการส่งเสริมรถอีวีให้เกิดขึ้นได้นั้น จะต้องมองความเป็นไปได้ของตลาด ซึ่งระยะแรกอาจต้องให้มีการนำเข้ารถสำเร็จรูปหรือชิ้นส่วนเข้ามาประกอบ รวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคลไฟฟ้าเองก็อาจเกี่ยวข้องกับภาษีสรรพสามิต โดยปัจจันรถอีวีมีภาษีสรรพสามิต 10%

จากแฟ้มข่าวกระทรวงอุตสาหกรรม  สำนักข่าวอินโฟเควสท์ หนังสือพิมพ์ข่าวสด กรอบบ่าย วันที่ 3 ก.พ.60

ทุ่มหมดหน้าตัก หนุนรถยนต์ไฟฟ้า ก.อุตฯ เล็งให้สิทธิ์จัดหนัก-จูงใจเอกชนลงทุนในปีนี้

กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งสรุปแผนหนุนลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) จูงใจเอกชนยื่นขอบีโอไอภายในปีนี้ หวังผลิตได้ภายใน 3 ปี ทุ่มสุดตัวนอกจากเว้นภาษี 13 ปี อาจให้เพิ่มอีก รวมถึงถกสรรพสามิตหั่นภาษีรถยนต์ไฟฟ้า จาก 10% ให้ต่ำลงไปอีก

นายอุตตม สาวนายน  รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงกำลังหามาตารการจูงใจให้เอกชนยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ภายในปีนี้ซึ่งมึความเป็นไปได้ที่ผลิตเชิงพาณิชย์ในอีก 3 ปีข้างหน้า รองรับเทคโนโลยีอีวีโลกที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายในไม่เกิน 10 – 15 ปีนับจากนี้

“อย่างไรก็ตาม แพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนอย่างเดียวคงยังไม่ตอบโจทย์ ดังนั้น ทั้งหมดจะตอบโจทย์ให้เกิดการลงทุนได้จริงต้องประกอบไปด้วย 1. สิทธิประโยชน์ 2. สร้างความต้องการ เช่น ลดภาษีนำเข้า 3. กำหนดเทคโนโลยี เช่น่ ต้องก่อให้เกิดการผลิตแบตเตอรี่ และ 4. แนวทางเจรจาผู้ที่จะลงทุน โดยตั้งคณะทำงานขับเคลื่อน เพื่อสรุปแนวทางพัฒนาให้เสร็จภายน 2 สัปดาห์” นายอุตตมกล่าว

ด้านนายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า แนวทางการส่งเสริมสิทธิประโยชน์การลงทุนจะเป็นไปตาม พ.ร.บ.ใหม่ของบีโอไอ เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกิน 13 ปี แต่อาจมีเงื่อนไขพิเศษที่จะให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเช่น การถ่ายทอดเทคโนโลยี เชื่อมโยงซัพพลายเชนหรือการร่วมทุนกับผู้ผลิตในไทยในการพัฒนาแบตเตอรี่ซึ่งก็กำลังพิจารณารายละเอียดต่างๆ อยู่รวมถึงกำลังหารือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศว่าจะหาแนวทางอย่างไรในการปรับตัวรองรับ

“รถอีวีถือเป็นการส่งเสริมในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่อาจเห็นสิทธิประโยชน์แบบบีโอไอพลัส นอกเหนือจากบีโออาจมีมาตรการของกระทรวงการคลังเข้ามาเสริมซึ่งกำลังพจารณาอยยุ๋ ส่วนชิ้นส่วนเรากำลังหารือว่าจะปรับให้ผู้ผิลตชิ้นส่วนในไทยรองรับอย่างไร ส่วนหนึ่งอาจพัฒนาไปผลิตชิ้นส่วนรองรับได้แต่อีกส่วนอาจต้องปรับไปสู่อุตสาหกรรมอื่นๆ” นายวีระศักดิ์กล่าว

นายณัฐพล รังสิตพล ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรรมในฐานะรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า หลักกการของการส่งเสริมรถอีวีให้เกิดขึ้นได้นั้น จะต้องมองความเป็นไปได้ของตลาด ซึ่งระยะแรกอาจต้องให้มีการนำเข้ารถสำเร็จรูปหรือชิ้นส่วนเข้ามาประกอบ รวมถึงรถยนต์ส่วนบุคคลไฟฟ้าเองก็อาจเกี่ยวข้องกับภาษีสรรพสามิต โดยปัจจุบันรถอีวีมีภาษีสรรพสามิต 10%

แฟ้มข่าวกระทรวงอุตสาหกรรม  สำนักข่าวอินโฟเควสท์ หนังสือพิมพ์ข่าวสด กรอบบ่าย วันที่ 3 ก.พ.60
http://www.industry.go.th/industry/index.php/th/2016-06-30-04-05-54